ตสฺมาติห ภิกฺขเว เอวํ สิกฺขิตพฺพํ, ‘‘อุปฺปนฺนํ ลาภสกฺการสิ โลกํ ปชหิสฺสาม, น จ โน อุปฺปนฺโน ลาภสกฺการสิโลโก จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสภี’’ติ, เอวญฺหิ โข ภิกฺขเว สิกฺขิตพฺพํฯ
เอกปุตฺตกสุตฺต
ปุจฺฉา – ตตฺโถ อาวุโส โปราณเกหิ ธมฺมสํคาหเกหิ สํคีตํ เอกปุตฺตกสุตฺตํ กตฺถ กํ อารพฺภํ กถญฺจ ภาสิตํฯ
วิสฺสชฺชนา – สาวตฺถิยํ ภนฺเต สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ ‘‘ทารุโณ ภิกฺขเว ลาภสกฺการสิโลโก กฏุโก ผรุโส อนฺตรายิโก อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมาย, สทฺธา ภิกฺขเว อุปาสิกา เอกปุตฺตกํ ปิยํ มนาปํ เอวํ สมฺมาอายาจมานา อายาเจยฺย ตาทิโส ตาต ภวาหิ, ยาทิโส จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโก’’ติ เอวมาทินา ภควตา ภาสิตํฯ
เอสา ภิกฺขเว ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวกานํ อุปาสกานํ ยทิทํ จิตฺโต จ คหปติ หตฺถโก จ อาฬวโกฯ
สเจ โข ตฺวํ ตาต อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชสิ, ตาทิโส ตาต ภวาหิ, ยาทิสา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาฯ
มา จ โข ตฺวํ ตาต เสขํ อปฺปตฺตมานสํ ลาภสกฺการสิโลโก อนุปาปุณาตุ–
เอวํ ทารุโณ ภิกฺขเว ลาภสกฺการสิโลโก กฏุโก ผรุโส อนฺตรายิโก อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมายฯ
เอกวีตุสุตฺต
ปุจฺฉา – ตตฺเถว อาวุโส โปราณเกหิ ธมฺมสํคายเกหิ สํคีตํ เอกธีตุสุตฺตํ ภควตา กตฺถ กํ อารพฺภ กถญฺจ ภาสิตํฯ
วิสฺสชฺชนา – สาวตฺถิยํเยว ภนฺเต สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ ‘‘ทารุโณ ภิกฺขเว ลาภสกฺการสิโลโก กฏุโก ผรุโส อนฺตรายิโก อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมายฯ สทฺธา ภิกฺขเว อุปาสิกา เอกํ ธีตรํ ปิยํ มนาปํ เอวํ สมฺมา อายาจมานา อายาเจยฺย ‘ตาทิสา อยฺเย ภวาหิ, ยาทิสา ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’ติฯ เอสา ภิกฺขเว ตุลา เอตํ ปมาณํ มม สาวิกานํ อุปาสิกานํ, ยทิทํ ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา เวฬุกณฺฑกิยา จ นนฺทมาตา’’ติ เอวมาทินา ภนฺเต ภควตา ภาสิตํฯ